วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตอนที่ 10.เริ่มสงคราม

ฝ่ายเตียวก๊กเมื่อจัดกองทัพห้าสิบหมื่นพร้อมแล้วก็ประกาศสงครามกู้ชาติ เพื่อปลดปล่อยประชาชนให้หลุดพ้นจากการกดขี่ข่มเหงรังแก และปล้นชิงวิ่งราวของขุนนางและข้าราชการ ให้เคลื่อนทัพเข้าโจมตีและยึดหัวเมืองทั้งแปด ซึ่งราษฎรนับถืออยู่แต่ก่อนแล้ว

จากนั้นจึงเคลื่อนพลเข้าโจมตีหัวเมืองอื่นๆอีกหลายหัวเมือง ตัวเตียวก๊กเองนั้นคุมพลสิบห้าหมื่นเข้าโจมตีแล้วยึดเมืองจงก๋ง ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญในการบุกเข้ายึดเมืองหลวงต่อไป

 
ส่วนเตียวโป้และเตียวเหลียงยกไปตีเมืองเองฉวน ภายในเมืองได้ตั้งรับอย่างแข็งขัน เตียวโป้และเตียวเหลียงยึดเมืองไม่ได้ก็ตั้งค่ายรายล้อมเมืองไว้

การเคลื่อนทัพเข้าตีและยึดเมืองต่างๆของขบวนการกู้ชาติที่บัญชาการโดยเตียวก๊กครั้งนี้ เป็นไปโดยรวดเร็ว เนื่องจากหัวเมืองทั้งแปดมีราษฎรนิยมนับถือเตียวก๊กอยู่ก่อนแล้วถึงขนาดเขียนชื่อเตียวก๊กบูชาทุกบ้านเรือน ทั้งมีความเคียดแค้นชิงชังข้าราชการและขุนนาง ที่เอาแต่กดขี่ข่มเหงรังแกรีดนาทาเร้นราษฎร ดังนั้นชาวเมืองจึงพากันเข้าร่วมกับฝ่ายกู้ชาติ ซึ่งสามก๊กทุกฉบับระบุความตรงกันว่า ไม่มีราษฎรหลบหนีออกจากเมืองหรือก่อความวุ่นวายขึ้นแต่ประการใด

ฝ่ายกองทัพจากเมืองหลวงที่บัญชาการโดยแม่ทัพโลติดมีฮองฮูสงและจูฮีเป็นแม่ทัพรองและแม่ทัพหนุน พอทราบข่าวการสนับสนุนกำลังเพิ่มเติมจึงได้เคลื่อนกองทัพยกไปเป็นสามด้านพร้อมกัน มุ่งเข้าตีจุดยุทธศาสตร์คือเมืองจงก๋งและเมืองเองฉวนเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบให้ได้เสียก่อน

ตัวโลติดคุมพลห้าหมื่นยกไปล้อมเมืองจงก๋งซึ่งเตียวก๊กได้ยึดไว้ ส่วนฮองฮูสงและจูฮีให้ยกไปเมืองเองฉวน และให้ตั้งค่ายไว้นอกเมืองยันทัพเตียวโป้และเตียวเหลียงไว้

ฝ่ายเทียอ้วนจี้ทหารเอกของฝ่ายกู้ชาติอีกคนหนึ่ง ได้นำทัพห้าหมื่นคนยกเข้าตีเมืองตุ้นก้วน เมื่อทัพเทียอ้วนจี้เคลื่อนไปถึงชายแดนเมืองตุ้นก้วน ความศึกทราบถึงเล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองอิวจิ๋ว จึงสั่งให้เจาเจ้งนำกำลังพลห้าร้อยนายพร้อมเล่าปี่,กวนอู,เตียวหุยไปปราบโจร

กองทหารของเจาเจ้ง,เล่าปี่,กวนอู,เตียวหุย แม้มีกำลังพลน้อยกว่าทัพของเทียอ้วนจี้หลายเท่านัก แต่ด้วยฝีมือการรบของกวนอู,เตียวหุยเหนือชั้นกว่ามาก ดังนั้นเมื่อเกิดปะทะกันขึ้นเทียอ้วนจี้ จึงถูกกวนอูใช้ง้าวฟันขาดเป็นสองท่อน ส่วนทหารเอกของเทียอ้วนจี้ชื่อเตงเมา ก็ถูกเตียวหุยใช้ทวนแทงถูกอกตกม้าตาย





กองทัพฝ่ายกู้ชาติของเทียอ้วนจี้จึงแตกกระจายไปสิ้น เล่าปี่เห็นได้ทีจึงขับทหารไล่จับพวกโจรและเก็บอาวุธได้เป็นจำนวนมาก แล้วยกทหารกลับเมืองตุ้นก้วน

ชัยชนะของเล่าปี่ครั้งนี้เป็นชัยชนะครั้งแรกของกองทัพฝ่ายเมืองหลวง เล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองรู้ข่าวก็มีความยินดีออกไปรับเล่าปี่ถึงประตูเมือง กลับเข้าเมืองแล้วก็ปูนบำเหน็จทหารตามสมควร

เล่าปี่และทหารได้พักเพียงชั่วคืนเดียว รุ่งขึ้นเจ้าเมืองเฉงจิ๋วส่งม้าใช้ถือหนังสือมาถึงเจ้าเมืองตุ้นก้วนว่า โจรโพกผ้าเหลืองยกมาล้อมเมืองจึงขอทหารไปช่วย

เล่าเอี๋ยนจึงส่งเจ้าเจ้งให้คุมทหารห้าพันยกไปเมืองเฉงจิ๋ว พร้อมกับเล่าปี่,กวนอู,เตียวหุย นับเป็นการออกรบครั้งที่สองของเล่าปี่ในศึกโจรโพกผ้าเหลือง

ความจริงเจาเจ้งนั้นไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการศึกแต่เล่าเอี๋ยนกลับมอบหมายให้คุมทหารไปออกศึกถึงสองครั้งแทนที่จะมอบหมายให้เล่าปี่คุมทหารไปเอง ก็เพราะว่า ขณะนั้นเล่าปี่ยังไม่ได้เป็นข้าราชการของทางการ  เป็นแต่ไปเข้ากับเล่าเอี๋ยนและเล่าเอี๋ยนรับไว้โดยส่วนตัวเท่านั้น   ดังนั้นในราชการสงครามจึงต้องให้เจาเจ้งเป็นผู้คุมทหารโดยตำแหน่งหน้าที่

ศึกครั้งนี้กำลังพลที่เดินทัพไปกับเล่าปี่มีมากกว่าศึกครั้งก่อนถึงสิบเท่าคือมีจำนวนถึงห้าพันนับเป็นการบัญชาการทหารครั้งแรกของเล่าปี่ที่มีกำลังพลมากขนาดนี้

เมื่อทัพของเล่าปี่เคลื่อนไปใกล้เมืองเฉงจิ๋ว ก็ถูกกองทัพของฝ่ายกู้ชาติเข้าโจมตี เล่าปี่กำลังน้อยกว่าก็ถอยมาตั้งหลัก

เล่าปี่เห็นว่ากำลังรบน้อยกว่ากันมาก จึงกำหนดกลศึกเพื่อเอาชนะ โดยให้กวนอูคุมทหารพันหนึ่งไปซุ่มอยู่ในเหลื่อมเขาซ้ายทาง ให้เตียวหุยคุมทหารพันหนึ่งไปซุ่มอยู่ในดงไม้ข้างขวาทาง กำหนดว่าถ้าได้ยินเสียงม้าล่อเมื่อใดให้กวนอู เตียวหุย ยกทหารตีกระหนาบเข้ามา กวนอู เตียวหุย ก็ยกทหารไปซุ่มอยู่ตามคำสั่ง

รุ่งขึ้นเล่าปี่กับเจาเจ้งก็ยกทหารผ่านไปทางที่กวนอู เตียวหุย ซุ่มอยู่นั้น รุดหน้าไปรบกับโจรโพกผ้าเหลือง เมื่อปะทะกันแล้วเล่าปี่ เจาเจ้งก็แกล้งถอยมาทางที่กวนอูเตียวหุยซุ่มอยู่นั้น

ฝ่ายโจรโพกผ้าเหลืองได้ทีก็ไล่ตามตี มาถึงจุดซุ่มเล่าปี่ก็ให้ทหารตีม้าล่อขึ้นแล้วแปรขบวนทหารจากถอยเป็นหันกลับเข้าตี ในขณะที่กวนอูเตียวหุยได้ยินสัญญาณแล้วก็ยกทหารตีขนาบเข้ามา

โจรโพกผ้าเหลืองถูกตีขนาบเข้ามาทั้งสามด้านก็ตกใจแตกตื่นเสียทีเพราะไม่รู้กำลังศึก ทัพโจรโพกผ้าเหลืองจึงแตกพ่ายหนีเข้าไปใกล้กำแพงเมืองเฉงจิ๋ว เจ้าเมืองเฉงจิ๋วเห็นเป็นที่ก็ยกทหารตีกระทบเข้ามาเป็นสี่ด้าน ทหารโจรโพกผ้าเหลืองจึงระส่ำระสาย ถูกฆ่าฟันบาดเจ็บล้มตายลงเป็นอันมาก และแตกหนีไปจนหมดสิ้น 

เจ้าเมืองเฉงจิ๋วทราบข่าวชัยจึงปูนบำเหน็จแก่เล่าปี่และทหารตามสมควร แต่หาได้ชักชวนให้เล่าปี่รับราชการหรืออยู่ช่วยเหลือต่อไปไม่ ดูไปแล้วเล่าปี่ช่างอาภัพนักเพราะแม้จะมีฝีมือและผลงานปรากฏแต่กลับไม่มีใครเห็นคุณค่า

เสร็จศึกแล้วเจาเจ้งจึงแจ้งแก่เล่าปี่ว่าจะยกทหารกลับเมืองตุ้นก้วน เล่าปี่ก็เคว้งเพราะจะกลายเป็นคนตกงานอีกครั้งหนึ่ง แต่โชคยังดีที่เล่าปี่ได้ข่าวว่าแม่ทัพโลติดเพื่อนร่วมสำนักได้เป็นใหญ่ในราชการ ดำรงตำแหน่งที่แม่ทัพปราบขบวนการกู้ชาติและล้อมข้าศึกไว้ที่เมืองจงก๋ง เล่าปี่จึงขอทหารเจาเจ้งเพื่อไปช่วยแม่ทัพโลติด เจาเจ้งตัดใจให้ทหารเล่าปี่ไปห้าร้อยคนแล้วยกกำลังที่เหลือกลับเมืองตุ้นก้วน


ขอขอบคุณ 

บางช่วงบางตอนจาก สามก๊กฉบับคนขายชาติ
ภาพจากเกมส์ Romance of the kingdom 12    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น