วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ตอนที่ 12.สินบนขันที ตั๋งโต๊ะพ่ายโจร

เล่าปี่รับคำสั่งของรองแม่ทัพฮองฮูสงแล้ว จึงยกทหารเดินทางกลับเมืองจงก๋งเพื่อบรรลุเข็มมุ่งทางทหารในการตีสกัด ไม่ให้ทัพเตียวโป้เตียวเหลียงบรรจบทัพกับเตียวก๊กได้สำเร็จ

เล่าปี่เคลื่อนทัพมาถึงกลางทางสวนกับคณะของข้าหลวง ซึ่งคุมคนโทษขังกรงใส่เกวียนมาด้วย เล่าปี่เห็นนักโทษคุ้นหน้านักจึงหยุดม้าแล้วลงไปดู เห็นแม่ทัพใหญ่โลติดถูกจำขังอยู่ในกรงก็เกิดความสงสัย จึงไต่ถามความกับโลติด

โลติดแจ้งแก่เล่าปี่ว่า “เราล้อมเตียวก๊กไว้ใกล้จะแตกอยู่แล้ว เตียวก๊กมีความรู้เป็นอันมาก จะเอาโดยเร็วยังมิได้พระเจ้าเลนเต้จึงใช้จูฮงชาววังมาสืบข่าวราชการ จูฮงจะเอาของกำนัลสินบนแก่เรา เราจึงว่าในกองทัพนี้ก็ขาดเสบียงอยู่ เราจะมีสิ่งใดให้สินบนเล่า จูฮงโกรธกลับไปทูลกล่าวโทษว่าเรานี้มิได้มีใจรบพุ่ง ราชการจึงเนิ่นช้าอยู่พระเจ้าเลนเต้จึงให้ตั๋งโต๊ะมาเป็นนายทัพแทนเรา แล้วให้จำเราใส่กรงส่งไปเมืองหลวง”

ความที่โลติดแจ้งแก่เล่าปี่นี้ แสดงให้เห็นถึงระบบราชการในแผ่นดินของพระเจ้าเลนเต้ได้อย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า แม้ขนาดคนระดับแม่ทัพใหญ่อยู่หน้าศึกมีอาญาสิทธิ์ฆ่าคนได้ ทั้งกองทัพก็มีเสบียงไม่พอเพียงก็ยังถูกเรียกเอาสินบน

สามก๊กฉบับภาษาจีนว่า จูฮงนั้นมาจากกรมขันที จูฮงจึงเป็นลูกน้องของสิบขันทีใช้มาทำการ และสำหรับสิบขันทีแล้วไม่รู้สึกผิดปกติใดๆ ในการส่งคนไปเรียกเอาสินบนจากขุนนางทุกๆฝ่ายในแผ่นดิน เพราะเข้าใจเอาเองว่าขุนนางทั้งปวงมีความชั่วช้าเลวทรามเหมือนกับตัว เมื่อได้รับตำแหน่งใดๆแล้วก็จะต้องแสวงหาประโยชน์ ทั้งในรูปของการฉ้อราษฎร์และในรูปของการบังหลวง ดังนั้นแม้ว่าโลติดจะเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ถือรับสั่งไปทำศึกปราบจลาจล ก็ยังถูกสิบขันทีมองว่ายิ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ก็ยิ่งได้ผลประโยชน์มาก เมื่อโลติดไม่มีทรัพย์สินเงินทองให้เป็นสินบนจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ท้าทายอำนาจสิบขันทีอย่างหนึ่ง และเข้าใจไปว่าได้รับผลประโยชน์เป็นจำนวนมากจากการศึก แล้วไม่แบ่งปันอีกอย่างหนึ่ง เหตุนี้โลติดจึงต้องถูกสิบขันทีกราบทูลให้พระเจ้าเลนเต้ถอดออกจากตำแหน่งกลายเป็นคนโทษ แต่ข้อที่ว่าจูฮงโกรธไปทูลกล่าวโทษนั้นเป็นความเข้าใจผิดของโลติด เพราะตัวการใหญ่เป็นสิบขันที จูฮงเป็นแต่เพียงตัวโหมโรงเท่านั้น

วิธีการเรียกสินบนจากขุนนางตามหัวเมืองต่างๆ สรุปได้เป็น 3 วิธี คือการส่งผู้แทนไปตรวจการหรือสืบข่าวราชการอย่างหนึ่ง การออกไปตรวจเยี่ยมเองอย่างหนึ่ง และการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดินออกไปตรวจอีกอย่างหนึ่ง

เป็นที่รู้กันทั่วไปอย่างดียิ่งในบรรดาข้าราชการในหัวเมืองว่า เมื่อใดที่มีเหตุการณ์ตรวจการ ตรวจเยี่ยมหรือตรวจเงินแผ่นดินเกิดขึ้น ณ ที่ใดแล้ว ย่อมหมายความว่าจะต้องจัดเงินส่วยสินบน หากจัดให้แต่น้อยทุกอย่างก็เสมอตัว หากจัดให้มากผลการตรวจก็จะถูกรายงานไปเป็นความดีความชอบ และเสนอปูนบำเหน็จหรือเลื่อนชั้น หากไม่จัดให้ตามธรรมเนียมก็จะถูกถอดออกจากตำแหน่ง ถูกย้ายหรือต้องโทษ ดีร้ายก็อาจมีโทษถึงประหาร

บางครั้งไม่เพียงเรียกเอาส่วยสินบนเท่านั้น ยังเรียกเอาสินล่างด้วย ซึ่งก่อคือ ความทุกข์ร้อนอย่างหนักแก่ข้าราชการในหัวเมือง เพราะต้องยอมเสียลูกสาวหรือเมียน้อย หรือสาวใช้คนโปรดยกให้เป็นสินล่างแก่ผู้มีอำนาจอีกด้วย

เตียวหุยได้ยินคำโลติดแล้วก็โกรธเลือดขึ้นหน้า  ชักดาบจะฆ่าผู้คุมเพื่อถอด     โลติดออกจากกรง เล่าปี่ได้ห้ามไว้เพราะเป็นข้อรับสั่ง เมื่อเป็นเช่นนี้กวนอูจึงได้เสนอต่อพี่น้องทั้งสองว่าเมื่อโลติดเป็นคนโทษไปเสียแล้วจะไปเมืองจงก๋งตามเดิมพึ่งตั๋งโต๊ะก็ป่วยการ ควรเดินทางหลับเมืองตุ้นก้วนจะดีกว่า

เล่าปี่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกวนอู สามพี่น้องแห่งสวนท้อจึงนำทหารเปลี่ยนเส้นทางโฉมหน้าไปเมืองตุ้นก้วน

เดินทางได้สองวัน ได้ยินเสียงม้าล่อฆ้องกลองและเสียงโห่ร้องดังสนั่นมาแต่ไกล เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยจึงขึ้นม้าพากันไปบนเนินเขา  เห็นธงสำคัญประจำตัวแม่ทัพแล้วก็รู้ว่าตั๋งโต๊ะทหารเมืองหลวงเป็นนายทัพกำลังถูกทัพเตียวก๊กตีแตกพ่ายมา จึงนำทหารลงไปช่วยรบ

ทัพของเตียวก๊กคิดว่าต้องกล เพราะไม่รู้กำลังศึกมากน้อยจึงแตกหนีไป  ตั๋งโต๊ะกลับเข้าค่ายแล้วให้หาเล่าปี่กวนอูเตียวหุยมาสอบถามว่าเป็นทหารในสังกัดของใครและมีตำแหน่งแหล่งที่อย่างไร

ล่าปี่จึงบอกว่าไม่ได้เป็นขุนนางไม่มีตำแหน่งแหล่งที่ประการใด ตั๋งโต๊ะฟังแล้วก็แสดงกริยาดูหมิ่นเอากับสามพี่น้อง ไม่ได้แสดงความขอบใจหรือยินดีที่เล่าปี่ได้ช่วยเหลือตีข้าศึกจนแตกพ่ายไป เล่าปี่เห็นท่าทีตั๋งโต๊ะดังนั้นจึงคำนับลาออกมา แต่เตียวหุยเป็นคนเจ้าโทสะ เห็นกริยาท่าทีของตั๋งโต๊ะเช่นนี้ก็โกรธจะเข้าไปฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย เล่าปี่เข้าห้ามไว้ แล้วพร้อมใจกันยกทหารกลับไปหาจูฮี ณ เมืองเองฉวนอีกครั้ง

ขอขอบคุณ 

สามก๊กฉบับคนขายชาติ
ภาพจากเกมส์ Romance of the kingdom 12    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น